Chemical Compatibility คือความสามารถของวัสดุหรือสารแต่ละชนิดที่จะอยู่ร่วมกับสารเคมีอื่นๆ โดยไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา หรือความเสียหายที่ไม่ต้องการ เช่น การกัดกร่อน การเปลี่ยนสี หรือการแตกตัว วัสดุที่มี Chemical Compatibility ดีกับสารเคมีใดหมายถึงวัสดุนั้นสามารถสัมผัสหรือใช้งานร่วมกับสารเคมีนั้นได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดผลกระทบเชิงลบต่อโครงสร้างหรือสมบัติของวัสดุเอง
ความสำคัญของ Chemical Compatibility อยู่ที่การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับสารเคมีที่ต้องสัมผัสหรือจัดเก็บ หากเลือกวัสดุที่ไม่มีความเข้ากันได้ทางเคมี อาจเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์หรือภาชนะ เช่น ภาชนะบรรจุสารเคมีที่ไม่เข้ากันกับกรดเข้มข้น อาจถูกกัดกร่อนได้ง่าย ส่งผลให้เกิดการรั่วไหลหรืออันตรายต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกใช้ท่อหรือถังเก็บน้ำที่ต้องสัมผัสกับคลอรีน จำเป็นต้องเลือกวัสดุที่ไม่เกิดปฏิกิริยากับคลอรีน เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของท่อหรือถัง รวมถึงป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีลงสู่น้ำ อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ในกระบวนการผลิตต่างๆ การตรวจสอบ Chemical Compatibility มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสมกับสารเคมีที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิค เช่น การอุดตันของท่อ ระบบรั่วไหล หรือแม้แต่การระเบิดในกรณีที่เกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง ดังนั้นการศึกษาความเข้ากันได้ทางเคมีจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ก่อนนำวัสดุไปใช้งานจริง
การเลือกวัสดุที่เหมาะสมในแง่ของ Chemical Compatibility ต้องอาศัยข้อมูลจากตารางหรือคู่มือเฉพาะที่แสดงว่าวัสดุแต่ละชนิดสามารถใช้ร่วมกับสารเคมีชนิดใดได้บ้าง นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น อุณหภูมิ ความเข้มข้นของสารเคมี และระยะเวลาการสัมผัส เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานจะปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว