Component Marking คือ กระบวนการที่ใช้สำหรับการระบุข้อมูลหรือรายละเอียดสำคัญของชิ้นส่วนแต่ละชิ้นผ่านเครื่องหมาย สัญลักษณ์ หรือรหัสเฉพาะ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถตรวจสอบ ติดตาม หรือรับรองตัวตนของชิ้นส่วนนั้นๆ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว เครื่องหมายที่ใช้มักประกอบด้วยข้อมูล เช่น หมายเลขรุ่น หมายเลขซีเรียล วันที่ผลิต หรือแม้แต่ชื่อผู้ผลิต ซึ่งแต่ละข้อมูลมีความสำคัญต่อการควบคุมคุณภาพและการจัดการชิ้นส่วนในระบบต่างๆ
การทำเครื่องหมายบนชิ้นส่วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงจากการสับสนระหว่างชิ้นส่วนที่มีลักษณะคล้ายกัน และช่วยป้องกันการนำชิ้นส่วนปลอมมาใช้ในระบบ นอกจากนี้ การมีเครื่องหมายที่ชัดเจนยังช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับชิ้นส่วนได้ในกรณีที่เกิดปัญหาหรือข้อบกพร่อง ช่วยให้การซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วิธีการทำเครื่องหมายกับชิ้นส่วนสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น การสลักด้วยเลเซอร์ การพิมพ์ด้วยหมึก การติดฉลาก หรือแม้แต่การฝังชิปอิเล็กทรอนิกส์ ขึ้นอยู่กับประเภทของชิ้นส่วนและเงื่อนไขการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ เครื่องหมายเหล่านี้ต้องมีความคงทน ไม่หลุดลอกง่าย และสามารถอ่านได้ตลอดอายุการใช้งานของชิ้นส่วน แม้ว่าชิ้นส่วนนั้นจะต้องเผชิญกับสภาวะที่รุนแรงก็ตาม
ในทางปฏิบัติ Component Marking มีบทบาทสำคัญต่อการตรวจสอบคุณภาพและการบริหารจัดการคลังสินค้า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระบบต่างๆ และสนับสนุนการรับรองมาตรฐานของชิ้นส่วนแต่ละชิ้นอย่างโปร่งใส นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกต่อการสื่อสารข้อมูลระหว่างผู้ผลิต ผู้ใช้งาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
