- Cable Damage Risk (ความเสี่ยงต่อความเสียหายของสายเคเบิล)
คำอ่าน: /ˈkeɪbəl ˈdæmɪdʒ rɪsk/ [เค-เบิล-แด-เมจ-ริสค์]
ความหมาย: Cable Damage Risk คือความเสี่ยงที่สายเคเบิลจะได้รับความเสียหายจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น แรงกดทับ การเสียดสี อุณหภูมิสูงหรือต่ำ การสัมผัสสารเคมี หรือแรงดันไฟฟ้าไม่เหมาะสม ซึ่งอาจนำไปสู่การชำรุด ไฟฟ้าลัดวงจร หรืออัคคีภัย การประเมินและจัดการความเสี่ยงนี้มีความสำคัญต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ เช่น การเลือกวัสดุหุ้มสายที่ทนทาน การติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม และการตรวจสอบบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลในระบบต่าง ๆ
- Cable Identification (การระบุสายเคเบิล)
คำอ่าน: /ˈkeɪbəl aɪˌdɛntɪfɪˈkeɪʃən/ [เค-เบิล-ไอ-เดน-ติ-ฟิ-เค-ชัน]
ความหมาย: Cable Identification คือกระบวนการระบุและแยกแยะสายเคเบิลแต่ละเส้นในระบบที่มีสายจำนวนมาก เพื่อความถูกต้องและปลอดภัยในการตรวจสอบ ติดตาม หรือบำรุงรักษา โดยใช้ป้าย รหัสสี หรือเทคโนโลยีเช่นบาร์โค้ดและ RFID การมีระบบระบุสายที่ดีช่วยลดความสับสน ป้องกันการเชื่อมต่อผิด เพิ่มความปลอดภัย และทำให้การติดตั้งหรือซ่อมแซมรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังเอื้อต่อการวางแผนปรับปรุงหรือขยายระบบในอนาคต การจัดการข้อมูลสายเคเบิลอย่างเป็นระบบจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- Cable Management (การจัดการสายเคเบิล)
คำอ่าน: /ˈkeɪbəl ˈmænɪdʒmənt/ [เค-เบิล-แมน-เนจ-เม้นท์]
ความหมาย: Cable Management คือการจัดระเบียบและดูแลสายเคเบิลหรือสายไฟให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ปลอดภัย และง่ายต่อการบำรุงรักษา ช่วยลดความยุ่งเหยิง ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสาย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือการรบกวนสัญญาณ การจัดการสายที่ดีมักใช้วิธีการ เช่น ท่อร้อยสาย การมัดรวมสาย ถาดรองสาย หรือเครื่องหมายระบุสาย ทั้งนี้เพื่อให้สายได้รับการปกป้อง ใช้งานได้ยาวนาน และสะดวกต่อการค้นหาหรือแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังส่งเสริมความสวยงาม และภาพลักษณ์ของสถานที่ พร้อมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงระยะยาว
- Cable Routing (การเดินสายเคเบิล)
คำอ่าน: /ˈkeɪbəl ˈruːtɪŋ/ [เค-เบิล-รู-ทิง]
ความหมาย: Cable Routing คือการวางแผนและจัดเส้นทางเดินสายไฟหรือสายสัญญาณภายในระบบ เพื่อความเป็นระเบียบ ปลอดภัย และง่ายต่อการดูแล โดยคำนึงถึงการลดระยะทาง การป้องกันการบิดงอหรือซ้อนทับ ลดความเสียหายและสัญญาณรบกวน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เหมาะกับงานติดตั้งในอาคาร โรงงาน หรือเครื่องจักร
- Cable Routing Tray (ถาดเดินสายเคเบิล)
คำอ่าน: /ˈkeɪbəl ˈruːtɪŋ treɪ/ [เค-เบิ้ล-รู-ทิ้ง-เท-รย์]
ความหมาย: Cable Routing Tray คือโครงสร้างสำหรับรองรับและจัดระเบียบสายไฟในอาคารหรือโรงงาน ช่วยให้เดินสายไฟอย่างปลอดภัย ลดความยุ่งเหยิง ป้องกันความเสียหาย เพิ่มความสะดวกในการบำรุงรักษา สามารถเลือกวัสดุและขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน ช่วยยืดอายุสายไฟและลดความเสี่ยงจากอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Cable Wrap (ปลอกพันสาย)
คำอ่าน: /ˈkeɪbəl ræp/ [เค-เบิ้ล-แรพ]
ความหมาย: Cable Wrap คือวัสดุหรืออุปกรณ์สำหรับพันหรือหุ้มสายไฟ สายเคเบิล หรือสายสัญญาณ เพื่อปกป้องและจัดระเบียบสาย ช่วยลดปัญหาสายพันกัน ป้องกันความเสียหายจากการเสียดสี ฝุ่นละออง ความชื้น และความร้อน มีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น พลาสติก ผ้าชนิดพิเศษ หรือท่อยืดหยุ่น สามารถปรับขนาดตามต้องการ เหมาะสำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือระบบเสียง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความเป็นระเบียบ และยืดอายุการใช้งานของสายต่างๆ การเลือกใช้ Cable Wrap ที่เหมาะสมกับหน้างานและสภาพแวดล้อมจึงมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของระบบสาย
- Caprolactam (คาโปรแลกแทม)
คำอ่าน: /ˌkæprəˈlækˌtæm/ [แคพ-โร-แลค-แทม]
ความหมาย: Caprolactam คือสารประกอบอินทรีย์ลักษณะเป็นของแข็งสีขาว ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไนลอนหรือเส้นใยสังเคราะห์ มีคุณสมบัติทนทาน แข็งแรง น้ำหนักเบา สามารถขึ้นรูปและรีไซเคิลได้ เหมาะสำหรับผลิตผ้า อุปกรณ์กีฬา ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
- Carbon Black (คาร์บอนแบล็ค)
คำอ่าน: /ˈkɑːrbən blæk/ [คาร์-บอน-แบล็ก]
ความหมาย: Carbon Black คือผงสีดำละเอียด ผลิตจากการเผาไหม้สารอินทรีย์ที่มีคาร์บอนสูงในสภาวะออกซิเจนจำกัด มีอนุภาคขนาดเล็ก พื้นที่ผิวสูง และโครงสร้างเฉพาะตัว มีบทบาทสำคัญเป็นสารเติมแต่ง เพิ่มความแข็งแรง ทนต่อแรงเสียดทาน รังสี UV และให้สีดำเข้มในวัสดุต่าง ๆ นิยมใช้ในอุตสาหกรรม เช่น ผลิตยางล้อรถยนต์ หมึกพิมพ์ พลาสติก สายไฟ และผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความทนทานหรือสีดำสม่ำเสมอ ช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน Carbon Black จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยพัฒนาคุณสมบัติและขยายขอบเขตการใช้งานของวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Cardboard Box Fastening (การยึดกล่องกระดาษลูกฟูก)
คำอ่าน: /ˈkɑrdbɔrd bɑks ˈfæstənɪŋ/ [คาร์ด-บอร์ด-บ็อกซ์-ฟาส-เทน-นิ่ง]
ความหมาย: Cardboard Box Fastening คือวิธีการยึดติดกล่องกระดาษลูกฟูกให้แข็งแรงและปลอดภัยในการบรรจุสินค้า มีหลายวิธี เช่น กาว เย็บลวด เทปกาว หรือระบบล็อกกลไก แต่ละวิธีมีข้อดีข้อจำกัด การเลือกวิธีที่เหมาะสมช่วยลดความเสียหาย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยังเอื้อต่อการรีไซเคิล ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
- CE Marking (เครื่องหมาย CE)
คำอ่าน: /ˌsiː ˈmɑːrkɪŋ/ [ซี-มาร์ค-กิ้ง]
ความหมาย: CE Marking คือเครื่องหมายแสดงว่าสินค้าผ่านข้อกำหนดด้านความปลอดภัย สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายสหภาพยุโรป สินค้าที่ได้รับเครื่องหมายนี้สามารถจำหน่ายและเคลื่อนย้ายภายในยุโรปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย กระบวนการรับรองต้องผ่านการทดสอบและตรวจสอบอย่างเข้มงวด รวมถึงต้องมีเอกสารรับรองและติดตามผลหลังวางจำหน่าย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า เพิ่มโอกาสทางการตลาด ลดปัญหาการถูกปฏิเสธหรือถูกตรวจสอบซ้ำเมื่อนำเข้าสู่กลุ่มประเทศยุโรปและประเทศที่ยอมรับมาตรฐานเดียวกัน
- Chemical Compatibility (ความเข้ากันได้ทางเคมี)
คำอ่าน: /ˈkɛmɪkəl kəmˌpætəˈbɪləti/ [เค-มิ-เคิล-คอม-แพ-ทิ-บิ-ลิ-ที]
ความหมาย: Chemical Compatibility คือความเข้ากันได้ของวัสดุกับสารเคมี โดยไม่เกิดปฏิกิริยาหรือความเสียหาย เช่น การกัดกร่อนหรือแตกตัว มีความสำคัญในการเลือกวัสดุสำหรับจัดเก็บหรือสัมผัสสารเคมี เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน โดยอาศัยข้อมูลเฉพาะและพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิและความเข้มข้น
- Chemical Exposure Risk Assessment (การประเมินความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมี)
คำอ่าน: /ˈkɛmɪkəl ɪkˈspoʊʒər rɪsk əˈsɛsmənt/ [เค-มิ-เคิล-เอ็ก-สโพ-เชอร์-ริสก์-แอส-เซส-เม้นท์]
ความหมาย: Chemical Exposure Risk Assessment คือกระบวนการประเมินความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีในรูปแบบต่างๆ โดยพิจารณาปริมาณ ระยะเวลา และวิธีการสัมผัส รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มีความสำคัญในการป้องกันและลดอันตรายจากสารเคมีในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม ช่วยให้สามารถวางแผนควบคุม เลือกใช้มาตรการป้องกัน เช่น เลือกวัสดุที่ปลอดภัย จำกัดปริมาณ หรือปรับปรุงระบบระบายอากาศ การประเมินความเสี่ยงที่ถูกต้องและรอบคอบจึงจำเป็นต่อการรักษาความปลอดภัยและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
- Chemical Leaching (การชะละลายทางเคมี)
คำอ่าน: /ˈkɛmɪkəl ˈliːtʃɪŋ/ [เค-มิ-เคิล-ลี-ชิง]
ความหมาย: Chemical Leaching คือกระบวนการใช้สารเคมีในการสกัดหรือแยกองค์ประกอบจากของแข็ง เช่น แร่หรือดิน โดยเกิดปฏิกิริยาระหว่างของแข็งกับสารละลาย เช่น กรดหรือด่าง ทำให้สารเป้าหมายละลายออกมา เหมาะสำหรับการสกัดโลหะมีค่า รีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ และกำจัดโลหะหนักจากสิ่งแวดล้อม กระบวนการนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าวัสดุ ลดของเสีย และมีความยืดหยุ่นในการเลือกสารและเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม ต้องควบคุมการใช้สารเคมีและการจัดการของเสียเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Chemical Leaching จึงเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ต้องวางแผนและดูแลอย่างรอบคอบในทุกขั้นตอน
- Chemical Plants (โรงงานเคมี)
คำอ่าน: /ˈkɛmɪkəl plænts/ [เค-มิ-เคิล-แพลนท์]
ความหมาย: Chemical Plants คือสถานที่หรือระบบขนาดใหญ่สำหรับผลิตและแปรรูปสารเคมีในปริมาณมาก โดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีเฉพาะทาง มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบธรรมชาติผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์จาก Chemical Plants พบได้ทั่วไป เช่น พลาสติก ปุ๋ย สีทา ยางรถยนต์ และเส้นใยสังเคราะห์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญสำหรับนวัตกรรมและอุตสาหกรรมหลากหลาย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในสังคมปัจจุบัน
- Chemical Resistance (ความต้านทานสารเคมี)
คำอ่าน: /ˈkɛmɪkəl rɪˈzɪstəns/ [เค-มิ-เคิล-รี-ซิส-แทนซ์]
ความหมาย: Chemical Resistance คือ ความสามารถของวัสดุในการทนทานต่อการกัดกร่อนหรือเสื่อมสภาพจากสารเคมี ช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน ความปลอดภัย และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา การเลือกวัสดุที่มี Chemical Resistance เหมาะสมจึงสำคัญต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีรุนแรง
- Child-safe Application (แอปพลิเคชันที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก)
คำอ่าน: /ˈtʃaɪld seɪf ˌæplɪˈkeɪʃən/ [ไชลด์-เซฟ-แอพ-พลิ-เค-ชั่น]
ความหมาย: Child-safe Application คือหลักการออกแบบและใช้งานผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีให้ปลอดภัยต่อเด็กสูงสุด ครอบคลุมการเลือกวัสดุปลอดสารพิษ รูปแบบไม่มีขอบคม ขนาดเหมาะสม ป้องกันการกลืนกินหรือบาดเจ็บ รวมถึงการทดสอบความทนทาน เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและผลกระทบต่อร่างกายเด็ก ตัวอย่างเช่น ของเล่นไร้สารตะกั่วหรือชิ้นส่วนเล็กเกินไป การนำแนวคิดนี้ไปใช้ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง และสนับสนุนสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสมต่อพัฒนาการเด็ก
- Child-safe Locking System (ระบบล็อคเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก)
คำอ่าน: /ˈtʃaɪld seɪf ˈlɑkɪŋ ˈsɪstəm/ [ไชลด์-เซฟ-ล็อค-กิ้ง-ซิส-เท็ม]
ความหมาย: Child-safe Locking System คือระบบล็อกนิรภัยที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันเด็กเล็กจากการเปิดหรือเข้าถึงสิ่งของอันตราย เช่น ประตู รถยนต์ หน้าต่าง ลิ้นชัก หรือภาชนะสารเคมี โดยต้องใช้วิธีการหรือแรงเฉพาะในการปลดล็อก ช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุและสร้างความอุ่นใจให้ผู้ปกครอง นิยมใช้ในบ้านและยานยนต์ รวมถึงของใช้ทั่วไป โดยเน้นความทนทานและสะดวกสำหรับผู้ใหญ่ ขณะเดียวกันยังคงยากต่อการเปิดสำหรับเด็กเล็ก
- Chromium Content (ปริมาณโครเมียม)
คำอ่าน: /ˈkroʊmiəm ˈkɑntɛnt/ [โคร-เมียม-คอน-เทนท์]
ความหมาย: Chromium Content คือปริมาณธาตุโครเมียมในวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีผลสำคัญต่อคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความทนทานต่อการกัดกร่อน ความแข็งแรง และความเหนียว วัสดุที่มีโครเมียมสูงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทาน เช่น เครื่องมือที่สัมผัสน้ำทะเลหรือสารเคมี การควบคุมปริมาณโครเมียมอย่างเหมาะสมช่วยป้องกันการเกิดสนิมหรือปัญหาความเปราะในวัสดุ พบได้ในเครื่องครัว อุปกรณ์การแพทย์ ยานยนต์ และงานก่อสร้าง การเลือกใช้วัสดุที่มีปริมาณโครเมียมเหมาะสมช่วยเสริมประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์
- Circumference (เส้นรอบวง)
คำอ่าน: /ˌsɜːrkəmˈfɛrəns/ [เซอ-คัม-เฟอ-เรนซ์]
ความหมาย: Circumference คือ ความยาวโดยรอบของวัตถุที่มีลักษณะเป็นวงกลมหรือโค้งปิด เช่น ท่อหรือภาชนะกลม มีความสำคัญในการระบุขนาดและรูปร่างของวัตถุ เพื่อให้การประกอบหรือออกแบบชิ้นส่วนเป็นไปอย่างแม่นยำ ลดการเสียดสีและสึกหรอ วิธีวัด Circumference ได้แก่ การใช้สายวัดหรือคำนวณด้วยสูตร C = 2πr สำหรับวัตถุทรงกลม การกำหนดขนาด Circumference อย่างถูกต้องช่วยควบคุมคุณภาพ ลดการรั่วซึม และเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการคำนวณพื้นที่ผิว เพื่อการเคลือบหรือป้องกันการกัดกร่อน วัดได้อย่างแม่นยำเพื่อประสิทธิภาพและความทนทานของชิ้นงาน
- Cold Storage (ห้องเย็น)
คำอ่าน: /koʊld ˈstɔrɪdʒ/ [โคลด์-สโท-เรจ]
ความหมาย: Cold Storage คือการเก็บรักษาสิ่งของหรือวัสดุในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ เช่น ห้องเย็นหรืออุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อชะลอหรือหยุดกระบวนการทางเคมีและชีวภาพที่อาจทำให้สิ่งของเสื่อมสภาพ ตัวอย่างการใช้ ได้แก่ การแช่แข็งอาหาร การเก็บยา หรือวัสดุที่ไวต่อความร้อน การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างเหมาะสมช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ และป้องกันการเติบโตของจุลินทรีย์ เหมาะสำหรับการเก็บรักษาสินค้าหรือวัสดุที่ต้องการคุณภาพและความปลอดภัย ลดความเสียหายและต้นทุนในระยะยาว
- Cold Weather Rated (เหมาะสำหรับสภาพอากาศหนาว)
คำอ่าน: /koʊld ˈwɛðər ˈreɪtɪd/ [โคลด์-เว-เธอร์-เร-ทิด]
ความหมาย: Cold Weather Rated คือการรับรองว่าวัสดุหรือผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานได้ดีในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยผ่านการออกแบบและทดสอบให้ทนต่ออุณหภูมิต่ำ ไม่เปราะ แตก หรือสูญเสียประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีฤดูหนาวรุนแรง เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- Color Masterbatch (เม็ดสีมาสเตอร์แบทช์)
คำอ่าน: /ˈkʌlər ˈmæstərbætʃ/ [คัล-เลอะ-มาส-เทอะ-แบตช์]
ความหมาย: Color Masterbatch คือสารเติมแต่งที่รวมเม็ดสีเข้มข้นกับพอลิเมอร์พื้นฐานในรูปแบบเม็ดหรือเกล็ดเล็ก ใช้ผสมกับพลาสติกเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีสีสันสม่ำเสมอ สดใส และคงทน มีข้อดีเหนือการเติมสีโดยตรง เช่น ควบคุมปริมาณสีแม่นยำ ลดปัญหาสีไม่สม่ำเสมอ ลดขั้นตอนเตรียมผสมสี และลดฝุ่นสีที่อาจเป็นอันตราย Color Masterbatch มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติก เช่น บรรจุภัณฑ์ ของใช้ในบ้าน ชิ้นส่วนรถยนต์ ของเล่นเด็ก สามารถปรับสูตรให้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ป้องกันรังสียูวีหรือเพิ่มความทนทานตามความต้องการ จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและมีประสิทธิภาพสำหรับการเพิ่มสีและคุณสมบัติให้ผลิตภัณฑ์พลาสติกยุคใหม่
- Color Standardization (มาตรฐานสี)
คำอ่าน: /ˈkʌlər ˌstændərdaɪˈzeɪʃən/ [คัล-เลอะ-สแตน-ดะ-ได-เซ-ชั่น]
ความหมาย: Color Standardization คือกระบวนการควบคุมให้สีของผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานที่กำหนด โดยใช้เครื่องมือวัดสีที่แม่นยำและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดความคลาดเคลื่อน ป้องกันปัญหาสีผิดเพี้ยน ลดของเสียจากการผลิต และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ พลาสติก และโลหะ
- Color-coded Identification (การระบุด้วยรหัสสี)
คำอ่าน: /ˈkʌlər ˈkoʊdɪd aɪˌdɛntəfəˈkeɪʃən/ [คั-เลอร์-โค-เด็ด-ไอ-เดน-ติ-ฟิ-เค-ชั่น]
ความหมาย: Color-coded Identification คือระบบการใช้สีแยกแยะหรือระบุข้อมูลของวัตถุแต่ละประเภทอย่างชัดเจน เพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเสริมความปลอดภัยในการทำงาน เช่น การแยกประเภทท่อหรือชิ้นส่วนในโรงงาน โดยแต่ละสีมีความหมายเฉพาะและเป็นมาตรฐานร่วมกัน เพื่อให้เข้าใจตรงกันและใช้งานได้ถูกต้องรวดเร็วในสภาพแวดล้อมจริง
- Colorant (สารให้สี)
คำอ่าน: /ˈkʌlɚənt/ [คัล-ละ-แรนท์]
ความหมาย: Colorant คือสารเติมแต่งสีที่ใช้ในวัสดุต่าง ๆ เช่น พลาสติก กระดาษ สิ่งทอ และเครื่องสำอาง เพื่อเปลี่ยนหรือเสริมสร้างสีสันให้น่าสนใจ โดยอาจอยู่ในรูปของผง ละอองของเหลว หรือเม็ดเล็ก ๆ สีที่ได้ขึ้นกับชนิดและปริมาณของ colorant รวมถึงความเข้ากันได้กับวัสดุและความคงทนของสี Colorant มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสวยงาม มูลค่า และความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เช่น บรรจุภัณฑ์ เสื้อผ้า หรือของเล่น อีกทั้งยังใช้ในการจำแนกประเภทผลิตภัณฑ์หรือเพิ่มความน่ารับประทานในอาหาร จึงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค
- Compliance Standard (มาตรฐานการปฏิบัติตาม)
คำอ่าน: /kəmˈplaɪəns ˈstændərd/ [คอม-ไพล์-แอ็นซฺ-สแตน-ดาร์ด]
ความหมาย: Compliance Standard คือข้อกำหนดที่องค์กรต้องปฏิบัติตามเพื่อรับรองคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ช่วยลดความเสี่ยง สร้างความไว้วางใจในตลาด และสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ
- Component Marking (การทำเครื่องหมายชิ้นส่วน)
คำอ่าน: /kəmˈpoʊnənt ˈmɑrkɪŋ/ [คอม-โพ-เนนท์-มาร์ค-กิ้ง]
ความหมาย: Component Marking คือกระบวนการระบุข้อมูลสำคัญบนชิ้นส่วนด้วยเครื่องหมายหรือรหัสเฉพาะ เช่น หมายเลขรุ่น หมายเลขซีเรียล หรือวันที่ผลิต เพื่อความถูกต้องในการตรวจสอบ ติดตาม และป้องกันการปลอมแปลง วิธีการทำเครื่องหมายมีหลากหลาย เช่น การสลักเลเซอร์ การพิมพ์หมึก หรือฝังชิปอิเล็กทรอนิกส์ โดยเครื่องหมายต้องคงทนและอ่านได้ตลอดอายุการใช้งาน ช่วยสนับสนุนการควบคุมคุณภาพ การบริหารจัดการคลังสินค้า และเพิ่มความปลอดภัยในระบบต่างๆ
- Component Wear (การสึกหรอของชิ้นส่วน)
คำอ่าน: / kəmˈpoʊnənt wɛr / [คอม-โพ-เนนท์-แวร์]
ความหมาย: Component Wear คือ การสูญเสียเนื้อวัสดุของชิ้นส่วนเครื่องจักรหรืออุปกรณ์จากแรงเสียดทาน แรงกระแทก หรือแรงกดดัน ทำให้รูปร่างและคุณสมบัติเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน การติดตามและประเมินการสึกหรอช่วยวางแผนบำรุงรักษา ลดความเสี่ยงการเสียหายและต้นทุนซ่อม การเลือกวัสดุและออกแบบที่เหมาะสมช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาการสึกหรอในระบบต่าง ๆ
- Conductive Coating (สารเคลือบนำไฟฟ้า)
คำอ่าน: /ˈkɑnˌdʌktɪv ˈkoʊtɪŋ/ [คัน-ดัก-ทิฟ-โค-ทิง]
ความหมาย: Conductive Coating คือชั้นเคลือบที่นำไฟฟ้าได้ เหมาะสำหรับเพิ่มการนำไฟฟ้าบนวัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า เช่น พลาสติก แก้ว หรือเซรามิก โดยผสมโลหะหรือคาร์บอน ใช้ในงานป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวน (EMI Shielding), หน้าจอสัมผัส, แผงวงจร และป้องกันไฟฟ้าสถิต ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน
- Conductive Polymer (โพลิเมอร์นำไฟฟ้า)
คำอ่าน: /ˈkɒn.dʌk.tɪv ˈpɒl.ɪ.mər/ [คอน-ดัก-ทีฟ-พอล-ลิ-เมอร์]
ความหมาย: Conductive Polymer คือพอลิเมอร์ชนิดพิเศษที่นำไฟฟ้าได้ แตกต่างจากพอลิเมอร์ทั่วไปที่เป็นฉนวนไฟฟ้า มีโครงสร้างพิเศษช่วยให้เกิดการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน จึงนำไฟฟ้าได้ในระดับต่าง ๆ มีจุดเด่นด้านความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน และขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เซ็นเซอร์ แบตเตอรี่ ฟิล์มป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และการเคลือบผิว โดยสามารถปรับแต่งคุณสมบัติให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะได้
- Conduit Support (อุปกรณ์ยึดท่อ)
คำอ่าน: /ˈkɑn.du.ɪt səˈpɔrt/ [คอน-ดู-อิท-ซัพ-พอร์ท]
ความหมาย: Conduit Support คือโครงสร้างหรืออุปกรณ์สำหรับรองรับท่อหรือรางเดินสายไฟ เพื่อความมั่นคงและปลอดภัย ป้องกันการบิดงอหรือเคลื่อนที่ของท่อ ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความเป็นระเบียบ มีหลายรูปแบบ เช่น แคลมป์ ฮาanger รางรับน้ำหนัก เลือกใช้ตามลักษณะงานและสภาพแวดล้อม การติดตั้งต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า ประปา หรือระบายอากาศในอาคารและโรงงาน
- Construction Engineering (วิศวกรรมก่อสร้าง)
คำอ่าน: /ˌkənˈstrʌkʃən ˌɛnʤəˈnɪrɪŋ/ [คัน-สตรัค-ชัน-เอน-จิ-เนีย-ริง]
ความหมาย: Construction Engineering คือสาขาวิชาที่เกี่ยวกับการวางแผน ออกแบบ ควบคุม และดูแลกระบวนการก่อสร้างโครงสร้างต่างๆ เช่น อาคาร ถนน สะพาน มุ่งเน้นให้โครงการสำเร็จตามเป้าหมายด้านความแข็งแรง ปลอดภัย และประหยัดงบประมาณ โดยต้องใช้ความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติในการบริหารจัดการโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ จุดสำคัญคือการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับแต่ละโครงสร้าง โดยพิจารณาคุณสมบัติ เช่น ความแข็งแรง ทนทาน และอายุการใช้งาน พร้อมตรวจสอบและทดสอบวัสดุอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพ นอกจากนี้ยังรวมถึงการบริหารทรัพยากร ควบคุมเวลา ค่าใช้จ่าย และมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- Container Closure (ภาชนะปิด)
คำอ่าน: /kənˈteɪnər ˈkloʊʒər/ [คอน-เท-น-เนอ-โคล-เชอะ]
ความหมาย: Container Closure คือระบบที่ออกแบบเพื่อปกป้องและปิดผนึกสิ่งของภายในภาชนะอย่างสมบูรณ์ ป้องกันการปนเปื้อนและการรั่วไหลจากสิ่งแวดล้อม เช่น อากาศ ความชื้น หรือจุลินทรีย์ มีความสำคัญต่อการรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร ยา และสารเคมี โดยต้องเลือกวัสดุและรูปแบบฝาปิดที่เหมาะสมเพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันอันตรายจากการรั่วไหล
- Continuous Use Lifespan (อายุการใช้งานต่อเนื่อง)
คำอ่าน: /kənˈtɪn.ju.əs jus ˈlaɪfˌspæn/ [คอน-ทิ-นิว-อัส-ยูซ-ไลฟ์-สแปน]
ความหมาย: Continuous Use Lifespan คือ ระยะเวลาที่วัสดุหรือผลิตภัณฑ์สามารถใช้งานต่อเนื่องโดยไม่เสื่อมสภาพหรือสูญเสียสมบัติสำคัญ โดยขึ้นอยู่กับความทนทานต่อปัจจัยแวดล้อม เช่น ความร้อน ความชื้น หรือสารเคมี มีความสำคัญต่อการเลือกวัสดุ วางแผนบำรุงรักษา และป้องกันความเสียหายต่อระบบ ช่วยให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ตลอดอายุการใช้งาน
- Controlled Burn Rate (อัตราการเผาไหม้ที่ควบคุม)
คำอ่าน: /kənˈtroʊld bɝːn reɪt/ [คอน-โทรลด์-เบิร์น-เรท]
ความหมาย: Controlled Burn Rate คือการควบคุมอัตราการเผาไหม้หรือสลายตัวของวัสดุให้เหมาะสม เพื่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการใช้งาน เช่น การผลิตเชื้อเพลิงหรืออุปกรณ์ที่ต้องการปล่อยพลังงานสม่ำเสมอ โดยอาศัยการออกแบบวัสดุและเงื่อนไขการใช้งานอย่างเหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์
- Conveyor Systems (ระบบสายพานลำเลียง)
คำอ่าน: / kənˈveɪ.ər ˈsɪs.təmz / [คอน-เว-เยอร์-ซิส-เท็มส์]
ความหมาย: Conveyor Systems คือระบบลำเลียงที่ออกแบบมาเพื่อขนส่งวัตถุหรือสินค้าอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ ลดการใช้แรงงานคน เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขนย้าย เหมาะกับการลำเลียงของจำนวนมากหรือของหนักในโรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า และสนามบิน สามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิผล ปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะงานและพื้นที่ ช่วยลดต้นทุน เวลา และความผิดพลาดในการขนส่ง มีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตและมาตรฐานการดำเนินงานในอุตสาหกรรมและธุรกิจต่าง ๆ
- Coolant Hoses (ท่อยางน้ำหล่อเย็น)
คำอ่าน: /ˈkuːlənt ˈhoʊzɪz/ [คู-แลนท์-โฮซ-ซึ]
ความหมาย: Coolant Hoses คือท่อสำหรับลำเลียงของเหลวระบายความร้อนในระบบเครื่องจักร มีหน้าที่รักษาอุณหภูมิและป้องกันความเสียหายจากความร้อน วัสดุที่ใช้ต้องทนทานต่ออุณหภูมิสูงและแรงดัน ต้องดูแลและตรวจสอบสภาพท่ออย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการรั่วซึมหรือแตกร้าวที่อาจส่งผลเสียต่อระบบ
- Copolymer Blend (พอลิเมอร์ร่วมผสม)
คำอ่าน: /koʊˈpɑləmər blɛnd/ [โค-พอ-ลิ-เม-อะ-เบลน-ดึ]
ความหมาย: Copolymer Blend คือการผสมโคพอลิเมอร์สองชนิดหรือมากกว่านั้นเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้วัสดุที่มีคุณสมบัติใหม่หรือปรับปรุงข้อดีของแต่ละชนิด เช่น เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น หรือทนต่อสารเคมี เหมาะสำหรับการออกแบบวัสดุให้ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะด้าน เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วัสดุหุ้มสายไฟ และของเล่น โดย Copolymer Blend ช่วยลดข้อจำกัดของพลาสติกแต่ละชนิด ปรับสมดุลสมบัติต่างๆ เช่น การทนความร้อน การป้องกันการแตกร้าว และลดต้นทุนการผลิต การเลือกและออกแบบ Copolymer Blend ให้เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาวัสดุที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมต่างๆ
- Cord Clutter (สายไฟรก)
คำอ่าน: /ˈkɔrd ˈklʌtər/ [คอร์ด-คลัท-เทอร์]
ความหมาย: Cord Clutter คือปรากฏการณ์ที่เส้นใยหรือสายภายในวัสดุเกิดความยุ่งเหยิงหรือพันกัน ไม่เป็นระเบียบ ส่งผลกระทบต่อสมบัติเชิงกล เช่น ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น หรือการนำไฟฟ้าของวัสดุนั้น ตัวอย่างพบได้ในสายเคเบิลหรือผ้าที่เส้นใยภายในพันกันมากเกินไป อาจทำให้วัสดุเปราะ แตกหักง่าย หรือประสิทธิภาพลดลง ในกระบวนการผลิตจึงต้องควบคุมการจัดเรียงเส้นใยหรือสายให้เป็นระเบียบ ลด Cord Clutter เพื่อเสริมสมบัติและประสิทธิภาพของวัสดุให้สูงสุด
- Corrosion-free (ปราศจากการกัดกร่อน)
คำอ่าน: / kəˈroʊʒən friː / [คะ-โร-เชิน-ฟรี]
ความหมาย: Corrosion-free หมายถึง วัตถุหรือสิ่งของที่ไม่เกิดการผุกร่อนหรือเสื่อมสภาพจากปฏิกิริยากับสภาพแวดล้อม เช่น น้ำหรืออากาศ คุณสมบัตินี้ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซม และเพิ่มความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า รั้ว หรือโครงสร้างอาคาร นอกจากนี้ยังช่วยลดขยะและประหยัดทรัพยากร จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกวัสดุสำหรับงานที่ต้องการความทนทานในระยะยาว
- Corrosion-resistant (ทนต่อการกัดกร่อน)
คำอ่าน: /kəˈroʊʒən rɪˈzɪstənt/ [คะ-โร-เชิน-รี-ซิส-เทินท์]
ความหมาย: Corrosion-resistant คือคุณสมบัติของวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำ ความชื้น อากาศ หรือสารเคมี ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการซ่อมแซม เหมาะกับการใช้ในสภาพแวดล้อมรุนแรง เช่น สแตนเลส อลูมิเนียม พลาสติกพิเศษ มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมและการป้องกันทรัพยากรสิ้นเปลือง
- Corrosive Chemicals (สารเคมีที่กัดกร่อน)
คำอ่าน: / kəˈroʊsɪv ˈkɛmɪkəlz / [คะ-โร-สิฟ-เค-มี-เคิลส์]
ความหมาย: Corrosive Chemicals คือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนหรือทำลายวัสดุ เช่น โลหะ พลาสติก หรือเนื้อเยื่อสิ่งมีชีวิต ก่อให้เกิดความเสียหาย รอยร้าว หรือการเสื่อมสภาพจากปฏิกิริยาทางเคมี นิยมใช้ในกระบวนการผลิตและทำความสะอาด เช่น กรดซัลฟูริก กรดไฮโดรคลอริก การเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน การเคลือบผิว และการจัดเก็บที่เหมาะสมช่วยป้องกันความเสียหายและลดความเสี่ยง พร้อมทั้งต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อปกป้องอุปกรณ์และสุขภาพผู้ปฏิบัติงาน
- Cost-effective Solution (โซลูชันที่คุ้มค่า)
คำอ่าน: /ˌkɒst ɪˈfɛktɪv səˈluːʃən/ [คอสท์-อิ-เฟค-ทีฟ-โซ-ลู-ชัน]
ความหมาย: Cost-effective Solution คือแนวทางที่มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดที่สุด โดยเน้นการเปรียบเทียบทางเลือกเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม คำนึงถึงทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพ และต้นทุน แนวคิดนี้ช่วยลดการสูญเสียทรัพยากร เสริมสร้างนวัตกรรม และเพิ่มความยั่งยืนในการดำเนินงาน เหมาะสำหรับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในหลากหลายด้าน ทั้งงานอุตสาหกรรม ก่อสร้าง และการออกแบบ ช่วยสร้างความสมดุลระหว่างคุณภาพและต้นทุนอย่างยั่งยืน
- Cost-performance Ratio (อัตราส่วนความคุ้มค่าต่อราคา)
คำอ่าน: /ˌkɒst pəˈfɔːməns ˈreɪʃiəʊ/ [คอสท์-เพอ-ฟอร์-แมนซ์-เร-เชีย-โอ]
ความหมาย: Cost-performance Ratio คือ อัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างต้นทุนกับประสิทธิภาพที่ได้รับ ช่วยในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ วัสดุ หรือเครื่องมือที่คุ้มค่า หากมีค่าอัตราส่วนต่ำแสดงถึงความคุ้มค่ามาก นำไปใช้วางแผนการลงทุนและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนโดยไม่กระทบคุณภาพ ส่งเสริมความยั่งยืนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
- Cover Securing (การยึดฝาปิด)
คำอ่าน: /ˈkʌvər sɪˈkjʊrɪŋ/ [คัฟ-เวอร์-ซิ-เคียว-ริง]
ความหมาย: Cover Securing คือกระบวนการยึดหรือป้องกันฝาครอบของวัสดุหรืออุปกรณ์ให้อยู่กับที่อย่างมั่นคง ป้องกันการเคลื่อนที่ หลุดหล่น หรือเสียหายระหว่างใช้งาน ขนส่ง หรือเก็บรักษา โดยอาจใช้คลิปล็อค สกรู หรือวัสดุเฉพาะตามลักษณะฝาครอบ มีความสำคัญในการป้องกันฝุ่น ความชื้น สิ่งแปลกปลอม และป้องกันอุบัติเหตุหรือความเสียหายต่อระบบ ตัวอย่างเช่น การล็อคฝาเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร การเลือกวิธี Cover Securing ที่เหมาะสมช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ และลดค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน
- Craft Jointing (งานเชื่อมต่อ)
คำอ่าน: /kræft ˈdʒɔɪntɪŋ/ [คราฟท์-จอยท์-ทิง]
ความหมาย: Craft Jointing คือเทคนิคการเชื่อมต่อหรือประกอบชิ้นส่วนอย่างประณีตและแข็งแรง โดยเน้นการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับวัสดุ เช่น กาว หมุด สกรู เดือยไม้ เพื่อเพิ่มความทนทาน ความสวยงาม และอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ช่วยให้ชิ้นงานสามารถถอดประกอบหรือซ่อมแซมได้ง่าย เทคนิคนี้สำคัญต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของงานฝีมือ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความละเอียดและความประณีต เช่น เฟอร์นิเจอร์หรือสินค้างานไม้ Craft Jointing จึงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์ชิ้นงานคุณภาพสูงและตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง
- Creative Fastening (การยึดติดอย่างสร้างสรรค์)
คำอ่าน: /kriˈeɪtɪv ˈfæsnɪŋ/ [ครี-เอ-ทิฟ-ฟาส-เทน-นิ่ง]
ความหมาย: Creative Fastening คือแนวคิดและกระบวนการเชื่อมหรือยึดติดวัสดุด้วยวิธีใหม่ ๆ ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ไม่จำกัดแค่ตะปู สกรู หรือกาว แต่เลือกวิธีที่เหมาะสมกับวัสดุ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์แข็งแรง สวยงาม ตอบโจทย์เฉพาะด้าน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดปัญหาการหลุดร่อน ลดน้ำหนัก ลดต้นทุน และง่ายต่อการถอดประกอบหรือซ่อมแซม อีกทั้งยังสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ระบบล็อกอัตโนมัติในเฟอร์นิเจอร์ แม่เหล็กหรือวัสดุสมาร์ทในการยึดติดที่ถอดซ้ำได้ หรือเทปยึดติดพิเศษที่ไม่ทิ้งคราบ ช่วยให้การสร้างสรรค์ชิ้นงานมีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์ทั้งในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม
- Cross-section Area (พื้นที่หน้าตัด)
คำอ่าน: /ˈkrɒsˌsɛkʃən ˈɛəriə/ [ครอส-เซค-ชัน-แอ-เรี-ย]
ความหมาย: Cross-section Area คือพื้นที่หน้าตัดของวัตถุที่ได้จากการตัดในแนวตั้งฉากกับความยาว มีความสำคัญในการคำนวณความแข็งแรงและการรับแรง เช่น ในงานวิศวกรรม โครงสร้างอาคาร หรือสายไฟ ซึ่งขนาดพื้นที่หน้าตัดมีผลต่อความสามารถในการรองรับน้ำหนักหรือกระแสไฟฟ้า
- CSA C22.2 (ซีเอสเอ ซี22.2)
คำอ่าน: /si ɛs eɪ si twɛnti tu pɔɪnt tu/ [ซี-เอส-เอ-ซี-ทเวน-ที-ทู-พอยต์-ทู]
ความหมาย: CSA C22.2 คือมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่สมาคมมาตรฐานแห่งแคนาดากำหนด เพื่อควบคุมคุณภาพ ลดอุบัติเหตุ และรับรองว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัย เหมาะสมกับการใช้งานตามหลักสากลก่อนออกสู่ตลาด
- CSA Mark (เครื่องหมาย CSA)
คำอ่าน: /ˌsiː ɛs ˈeɪ mɑːrk/ [ซี-เอส-เอ-มาร์ก]
ความหมาย: CSA Mark คือสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานความปลอดภัยสากลจาก Canadian Standards Association ประเทศแคนาดา ติดบนผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงว่าผ่านการทดสอบและประเมินด้านความปลอดภัยและสมรรถนะจากหน่วยงานอิสระที่น่าเชื่อถือ ช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยทั้งการผลิต ขนส่ง และใช้งานจริง สัญลักษณ์นี้ยังเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอเมริกาเหนือ โดยครอบคลุมคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การทนแรงดัน ความร้อน สารเคมี และกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ส่งเสริมมาตรฐานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน
- Cushion Protection Integration (การผสานการปกป้องเบาะ)
คำอ่าน: /ˈkʊʃən prəˈtɛkʃən ˌɪntɪˈɡreɪʃən/ [คู-ชั่น-โพร-เทค-ชั่น-อิน-ทริ-เก-ชั่น]
ความหมาย: Cushion Protection Integration คือการผสานวัสดุกันกระแทกเข้าในผลิตภัณฑ์หรือโครงสร้างเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ยืดอายุการใช้งาน และลดแรงกระแทกจากภายนอก นิยมใช้ในเบาะนั่ง พื้นรองเท้า อุปกรณ์กีฬา และบรรจุภัณฑ์สินค้า โดยเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
- Cushioning Effect (เอฟเฟกต์รองรับแรงกระแทก)
คำอ่าน: /ˈkʊʃənɪŋ ɪˈfɛkt/ [คุช-เชิน-นิ่ง-เอฟ-เฟคท์]
ความหมาย: Cushioning Effect คือปรากฏการณ์ที่วัสดุหรือโครงสร้างสามารถดูดซับแรงกระแทก แรงกด หรือแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดแรงที่ส่งผ่านไปยังวัตถุหรือผู้ใช้งาน จึงป้องกันความเสียหายและยืดอายุการใช้งาน เช่น บรรจุภัณฑ์ พื้นรองเท้า เบาะรถยนต์ หรือหมวกนิรภัย วัสดุที่มีโครงสร้างรูพรุนหรือโฟมมักถูกเลือกใช้เพราะดูดซับแรงได้ดี การออกแบบ Cushioning Effect ที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงความยืดหยุ่น ความหนาแน่น และโครงสร้างวัสดุ เพื่อให้สอดคล้องกับประเภทแรงที่ต้องการดูดซับ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน
- Custom Application Support (การสนับสนุนแอปพลิเคชันที่กำหนดเอง)
คำอ่าน: /ˈkʌstəm ˌæplɪˈkeɪʃən səˈpɔrt/ [คัส-ตอม-แอพ-พลิ-เค-ชั่น-ซัพ-พอร์ท]
ความหมาย: Custom Application Support คือบริการดูแลและสนับสนุนซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับแต่ละองค์กร ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เสถียร และปรับตัวตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลง ครอบคลุมทั้งการแก้ไขปัญหา อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ บำรุงรักษาเชิงป้องกัน และปรับแต่งให้เข้ากับกระบวนการเฉพาะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และยกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน เช่น การบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ การตรวจสอบข้อมูลอัตโนมัติ หรือระบบแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ อีกทั้งยังสนับสนุนการนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น การเชื่อมต่อกับเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ส่งเสริมองค์กรให้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาด
- Cut-off Mechanism (กลไกตัดการทำงาน)
คำอ่าน: /ˈkʌt ˌɔːf ˈmɛkəˌnɪzəm/ [คัท-ออฟ-เม-คา-นิ-ซึม]
ความหมาย: Cut-off Mechanism คือ วิธีการกำหนดขอบเขตหรือจำกัดขนาดของบางสิ่ง เพื่อป้องกันผลกระทบหรือปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ และลดความซับซ้อนของกระบวนการที่มีรายละเอียดมาก ช่วยให้สามารถมองข้ามข้อมูลหรือปัจจัยที่ไม่มีผลสำคัญต่อผลลัพธ์หลัก ทำให้การวิเคราะห์หรือดำเนินงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตัวอย่างการใช้งาน เช่น การกรองสัญญาณรบกวน หรือการจำกัดขนาดอนุภาคในระบบ โดยข้อมูลนอกขอบเขตที่กำหนดจะไม่มีผลต่อภาพรวม การใช้ Cut-off Mechanism อย่างเหมาะสมจึงมีบทบาทในการควบคุมคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในหลากหลายกระบวนการ ทั้งในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม
- Cut-to-remove Method (วิธีตัดเพื่อนำออก)
คำอ่าน: /ˌkʌt tə rɪˈmuːv ˈmɛθəd/ [คัท-ทู-รี-มูฟ-เม-ธอด]
ความหมาย: Cut-to-remove Method คือวิธีการตัดหรือแยกชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการออกจากวัตถุหลักอย่างแม่นยำ โดยใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือเฉพาะ เพื่อควบคุมคุณภาพ ลดของเสีย และได้ชิ้นงานที่สมบูรณ์ นิยมใช้ในงานแปรรูปโลหะ พลาสติก แก้ว หรือวัสดุต่างๆ ทั้งการผลิตและซ่อมแซม การเลือกเครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และประหยัดเวลา จึงเป็นเทคนิคพื้นฐานสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ